ครั้งที่แล้วเราได้พูดถึงความสำคัญของตาราง The important vs urgent matrix หรือ The Eisenhower matrix กันไปแล้วว่าเราควรจะทำงานประเภทไหนก่อน งานสำคัญหรือไม่สำคัญและงานที่เร่งด่วนหรือไม่เร่งด่วน
แต่ถ้าพูดถึงในด้านการทำโปรเจคใหญ่ๆที่จะต้องใช้ทั้งเวลาและการลงทุนลงแรงเพื่อให้ได้ผลประโยชน์มากที่สุด ก็อาจจะทำให้หลายคนเกิดความสับสนและคิดหนักว่าโปรเจคไหนที่ควรจะทำก่อนหรืออันไหนควรจะพับเก็บไปเลย วันนี้เราเลยจะมาพูดถึง The Action Priority Matrix หรือ ตารางลำดับความสำคัญของโปรเจค
The Action Priority Matrix หรือ Activity Prioritization Matrix
เป็นตารางที่แกนนึงคือผลประโยชน์ (impact) และ อีกแกนนึงคือความพยายาม (effort) การจะเริ่มทำโปรเจคแต่ละครั้งเราจะต้องคำนึงถึงผลตอบแทนหรือกำไรที่เราจะได้รับกลับคืนมาเป็นหลักอยู่แล้ว และแน่นอนว่ามันจะต้องใช้ทั้งความพยายาม การลงทุนลงแรง รวมถึงเวลา ตารางนี้จึงจำแนกออกมาได้4ประเภทคือ
1. Quick Wins (High Impact, Low Effort) เป็นโปรเจคที่น่าสนใจมากที่สุดเพราะจะได้รับผลประโยชน์มากที่สุดและลงทุนลงแรงน้อย ไม่ต้องเหนื่อยมากแถมได้กำไรมาง่ายๆอีกด้วย
2. Major Projects (High Impact, High Effort) เป็นอีกโปรเจคที่น่าสนใจและได้รับผลตอบแทนเยอะแต่ก็ต้องลงทุนลงแรงบวกกับอาจจะใช้เวลานานในการทำ ง่ายๆคือการทำ Major Projects อาจจะมาแทรกและเบียดเวลาการทำ Quick Wins ที่ได้ผลประโยชน์เท่ากันแต่ต้องเหนื่อยกว่านั้นเอง
3. Fill Ins (Low Impact, Low Effort) เป็นโปรเจคที่ไม่ได้ได้รับผลตอบแทนที่ดีมากนักแต่ก็ไม่ต้องลงทุนหรือลงแรงกับมันมาก สามารถเก็บไว้ทำตอนที่ Quick Wins หรือ Major Projects เสร็จแล้ว
4. Thankless Tasks (Low Impact, High Effort) เป็นโปรเจคที่ควรจะหลีกเลี่ยงมากที่สุด เพราะต้องใช้ effortเยอะทั้งการลงทุนและเวลาแถมยังได้รับผลตอบแทนที่น้อยอีก เป็นโปรเจคที่ควรจะปัดทิ้งไปแล้วไปทำ Quick Wins แทนจะดีกว่า
สรุปก็คือ เราควรจะจำแนกโปรเจคแต่ละอันออกมาตามตารางก่อนเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาไปทำโปรเจคที่ต้องเหนื่อยและได้ผลประโยชน์ที่ไม่คุ้มค่า แล้วเอาเวลาไปทำโปรเจคที่สบายๆไม่ต้องเหนื่อยและลงทุนเยอะแต่ได้กำไรดีจะดีกว่า
Comments